ขับลุยน้ำท่วม อย่าคิดว่าแค่รถเปียก! 3 ภัยเงียบใต้น้ำ ที่พร้อมทำ “รถพัง”

หน้าฝนทีไร สิ่งที่คนใช้รถต้องเจอเป็นประจำก็คือ “น้ำท่วมขัง” รอการระบาย หลายคนอาจจะคิดว่า “คงไม่เป็นไรมั้ง” “แค่ลุยผ่านไปแป๊บเดียว” หรือ “รถเราสูง ลุยได้สบาย”

แต่เดี๋ยวก่อน การขับรถลุยน้ำท่วมขัง ไม่ใช่แค่เรื่องรถเปียก หรือเครื่องดับกลางทางเท่านั้น แต่มันมีความเสี่ยงที่ “ร้ายแรงกว่าที่คิด” ซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำขุ่นๆ ที่เรามองไม่เห็น วันนี้เราจะมาเปิด 3 ภัยเงียบใต้น้ำ ที่อาจเปลี่ยนจากการ “แค่ลุย” เป็น “จอดซ่อม” ได้ในพริบตา

1. “หลุมพราง” ใต้น้ำ (ภัยจากหลุมบ่อ)

ปกติเราก็พยายามหลบหลุมบนถนนกันอยู่แล้ว แต่พอน้ำท่วมปุ๊บ…ทุกอย่างก็ราบเรียบเป็นผืนเดียวกันทันที เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าใต้น้ำนั้นมีหลุมที่ลึกแค่ไหนรออยู่

ผลกระทบ: การตกลงไปในหลุมที่มองไม่เห็นอย่างแรง แม้เพียงครั้งเดียว อาจทำให้ ล้อแม็กราคาแพงของคุณดุ้ง คด หรือแตก ได้ทันที และที่หนักกว่านั้นคือ ระบบช่วงล่าง ทั้งโช้คอัพ ปีกนก ลูกหมาก อาจพังเสียหายโดยที่เราไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รถเริ่มวิ่งแปลกๆ หรือมีเสียงดังแล้ว

2. “กับระเบิด” ลอยน้ำ (ภัยจากเศษวัสดุมีคม)

น้ำท่วมไม่ได้มาแค่น้ำเปล่าๆ แต่มันยังพัดพาสิ่งของทุกอย่างที่ขวางหน้ามาด้วย ทั้งขยะ เศษไม้ กิ่งไม้ และที่อันตรายที่สุดคือ “ของมีคม”

ผลกระทบ: ใต้น้ำขุ่นๆ นั้น อาจเต็มไปด้วย เศษแก้ว ตะปู หรือเศษเหล็ก ที่ลอยมากับน้ำ การขับลุยเข้าไปก็เหมือนการเสี่ยงดวง หากเคราะห์ร้ายเหยียบโดนเต็มๆ ก็อาจทำให้ยางรั่ว หรือ “ยางแบน” ทันที ลองนึกภาพรถยางแบนที่ต้องจอดแช่อยู่กลางน้ำท่วมสิ..มันคือฝันร้ายชัดๆ

3. “ขอบทาง” ที่หายไป (ภัยจากการกะระยะพลาด)

นี่คือภัยคลาสสิกที่เจอกันบ่อยมาก เมื่อน้ำท่วมปิดบังทัศนวิสัยของขอบถนน ทำให้การกะระยะขอบฟุตบาทกลายเป็นเรื่องที่ยากที่สุด

ผลกระทบ: น้ำที่ท่วมสูงทำให้เรากะระยะได้ยากมาก และอุบัติเหตุที่พบบ่อยคือการ ขับปีนหรือเบียดขอบฟุตบาท อย่างแรง การชนเพียงครั้งเดียวอาจทำให้ ล้อเบี้ยว (ศูนย์ล้อผิดเพี้ยน) หรือที่อันตรายกว่านั้นคือ ยางอาจเกิดอาการ “ยางบวม” ที่แก้มยาง ซึ่งเป็นความเสียหายที่ซ่อมไม่ได้ และเสี่ยงต่อการระเบิดอย่างมากเมื่อใช้ความเร็วสูงในภายหลัง

สรุปแล้ว…ควรทำอย่างไร?

ทางที่ดีที่สุดคือ “เลี่ยง” หากเห็นน้ำท่วมขังสูงข้างหน้า อย่ามั่นใจในสมรรถนะรถจนเกินไป การหาเส้นทางอื่นอาจจะเสียเวลาบ้าง แต่ก็ดีกว่าต้องมาเสียเงินค่าซ่อมหลักพัน หลักหมื่น หรือหลักแสน

จำไว้ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” น้ำท่วมแค่ชั่วคราว แต่ถ้าช่วงล่างพังหรือยางระเบิดขึ้นมา มันไม่คุ้มกันเลย

แต่ในกรณีที่ “เลี่ยงไม่ได้” จริงๆ…

สิ่งสำคัญที่สุดคือการ “ลดความเสี่ยง” ให้มากที่สุด

  1. ชะลอความเร็ว แต่รักษาความเร็วให้คงที่ (ห้ามหยุด) เพื่อป้องกันน้ำเข้าท่อไอเสีย

  2. ระวังสูงสุด กับภัยที่มองไม่เห็น ทั้งหลุมและขอบทาง พยายามขับชิดเลนกลางถนนซึ่งมักจะสูงที่สุด

และในสถานการณ์คับขันแบบนี้ สมรรถนะของ “ยางรถยนต์” คือปัจจัยสำคัญที่จะพาคุณผ่านไปได้อย่างปลอดภัย

การมียางที่ไว้ใจได้คือสิ่งสำคัญ ยางรถยนต์ Westlake ถูกออกแบบและพัฒนาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในทุกสภาพถนน ด้วยเทคโนโลยีลายดอกยางที่ช่วย รีดน้ำได้อย่างรวดเร็ว ลดอาการเหินน้ำ และ โครงสร้างยางที่แข็งแกร่ง พร้อม แก้มยางที่ทนทานเป็นพิเศษ ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยลดความเสียหายหากเกิดการเบียดหรือกระแทกขอบฟุตบาทที่คุณมองไม่เห็นใต้น้ำ

ดังนั้น แม้เราจะแนะนำให้เลี่ยง แต่ถ้าจำเป็นต้องลุย… การเลือกใช้ยาง Westlake ก็เหมือนมีผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ ทำให้คุณ “มั่นใจ” กว่าในทุกเส้นทางที่คาดเดาไม่ได้

ขับขี่ปลอดภัย ด้วยความไม่ประมาทนะ