
เพื่อนๆ รู้ไหม? บนแก้มยางรถมีรหัสลับที่บอกอะไรเราได้มากกว่าที่คิด!
เวลาซื้อยางรถยนต์ แอดมินสังเกตุเห็นว่าหลายคนอาจดูแค่ขนาดยางหรือยี่ห้อ… แต่จริง ๆ แล้วบนแก้มยางยังมี “ดัชนีการรับน้ำหนัก (Load Index)” และ “ดัชนีความเร็ว (Speed Rating)” ที่สำคัญมาก ๆ ต่อความปลอดภัยและการใช้งานเลยนะคะ
ดัชนีการรับน้ำหนักและดัชนีความเร็วเป็นรหัสสำคัญบนแก้มยางรถยนต์ที่บ่งบอกขีดความสามารถของยางในการรองรับน้ำหนักและทนทานต่อความเร็วสูงสุด วันนี้แอดมินมีความรู้ดีๆมาฝากกันค่ะ

คือตัวเลขที่บอกถึงน้ำหนักบรรทุกสูงสุดที่ยางแต่ละเส้นสามารถรับได้ตามที่ผู้ผลิตกำหนด โดยหน่วยเป็นกิโลกรัม (kg) หรือปอนด์ (lbs)
วิธีการดู: ดัชนีนี้จะอยู่ถัดจากขนาดของยางและก่อนดัชนีความเร็ว เช่น หากรหัสคือ 91V ตัวเลข 91 คือดัชนีการรับน้ำหนัก
การแปลงค่า: ตัวเลขแต่ละตัวจะตรงกับน้ำหนักสูงสุดที่รับได้ตามตารางมาตรฐาน เช่น
91 = 615 กก.
95 = 690 กก.
100 = 800 กก.
สำคัญ: ควรเลือกยางที่มีดัชนีการรับน้ำหนักเท่ากับหรือสูงกว่าที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนด เพื่อความปลอดภัย

คือตัวอักษรที่บอกถึงความเร็วสูงสุดที่ยางสามารถวิ่งได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
วิธีการดู: ดัชนีนี้จะอยู่ถัดจากดัชนีการรับน้ำหนัก เช่น หากรหัสคือ 91V ตัวอักษร V คือดัชนีความเร็ว
การแปลงค่า: ตัวอักษรแต่ละตัวจะตรงกับค่าความเร็วสูงสุดที่แตกต่างกันไป เช่น
S = 180 กม./ชม.
T = 190 กม./ชม.
H = 210 กม./ชม.
V = 240 กม./ชม.
W = 270 กม./ชม.
Y = 300 กม./ชม.
สำคัญ: การใช้ยางที่วิ่งเกินความเร็วดังกล่าวอาจทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็ว หรือเกิดอุบัติเหตุได้ ควรเลือกยางที่มีดัชนีความเร็วที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
แล้วเราจะเลือกยังไงให้เหมาะกับรถเรา?
ง่ายมาก! แค่ดูคู่มือรถ หรือถามช่างก็ได้ว่า รถเราควรใช้ยางดัชนีเท่าไหร่ แล้วเลือกยางที่ เท่ากับหรือสูงกว่า ที่แนะนำ เท่านี้ก็ขับสบายใจหายห่วงแล้วค่ะ
บอกต่อกันหน่อย!
ใครเคยเจอยางที่ดัชนีไม่เหมาะกับรถบ้าง? หรือมีคำถามเกี่ยวกับตัวเลขบนแก้มยาง? คอมเมนต์มาได้เลย!
จะเปลี่ยนยางทั้งที เลือกให้ถูก = ขับปลอดภัย ใช้ได้นาน!